การหลอกลวงทางความรักมีมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยผู้หลอกลวงใช้ประโยชน์จากความไว้วางใจทางอารมณ์เพื่อหลอกลวงเงินของเหยื่อ เหยื่อจำนวนมากประสบกับความทุกข์ทางการเงินและจิตใจ บทความนี้จะเจาะลึกกลวิธีหลอกลวงทางความรักทั่วไปและให้คำแนะนำในการป้องกันที่เป็นประโยชน์
I. กลวิธีการหลอกลวงความรักแบบสามัญ
- ตัวตนปลอม
- ผู้หลอกลวงมักแอบอ้างตัวเป็นผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ เจ้าหน้าที่ทหาร หรือแพทย์ เพื่อสร้างความไว้วางใจ
- การเชื่อมต่อทางอารมณ์ที่รวดเร็ว
- คนหลอกลวงจะแสดงความรักอย่างเข้มข้นในช่วงเวลาสั้นๆ โดยใช้คำเยินยอและคำพูดหวานๆ เพื่อสร้างการพึ่งพาทางอารมณ์
- การประดิษฐ์สถานการณ์ฉุกเฉิน
- ผู้หลอกลวงจะสร้างสถานการณ์เร่งด่วนขึ้นมา เช่น “เหตุการณ์ฉุกเฉินทางการแพทย์” หรือ “เงินลงทุนถูกอายัด” เพื่อหลอกเหยื่อให้ส่งเงิน
- การจัดการระยะยาว
- เหยื่อที่ลงทุนทั้งทางอารมณ์และการเงินอาจประสบปัญหาในการยอมรับความจริง นำไปสู่การแสวงหาประโยชน์ในระยะยาว
II. จะป้องกันการหลอกลวงทางความรักได้อย่างไร?
- ควรระมัดระวังความสัมพันธ์ทางออนไลน์ โดยเฉพาะหากอีกฝ่ายแสดงความรักเร็วเกินไป
- อย่าส่งเงินหรือแบ่งปันข้อมูลทางการเงินกับ “พันธมิตร” ออนไลน์
- ใช้การค้นหารูปภาพย้อนกลับเพื่อยืนยันภาพโปรไฟล์
- ระวังคำขอทางการเงินใดๆ ไม่ว่าคำขอนั้นจะดูสมเหตุสมผลเพียงใดก็ตาม
III. จะทำอย่างไรหากคุณโดนหลอกลวง?
หากคุณสงสัยว่าคุณถูกหลอกลวง ให้ดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- หยุดโอนเงินทันที
- เก็บบันทึกการสื่อสารทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
- แสวงหาความช่วยเหลือทางกฎหมายจากผู้เชี่ยวชาญ
- รายงานการหลอกลวงไปยังหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและสถาบันการเงิน
GTILF ให้การสนับสนุนทางกฎหมายอย่างเชี่ยวชาญสำหรับกรณีการหลอกลวงความรักข้ามพรมแดน ทีมงานของเราช่วยให้เหยื่อได้รับเงินที่สูญเสียไปคืนและดำเนินคดีทางกฎหมายกับผู้หลอกลวง